พีระมิดที่จริงแล้วเป็นสีขาว
พีระมิดในประเทศอียิปต์ที่เราเห็นกันทุกวันนี้
เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ทำมาจากก้อนหินสีน้ำตาลวางต่อกันขึ้นไปเป็นขั้นบันได
ความยิ่งใหญ่และเทคนิคในการสร้างอันน่าทึ่งทำให้พีระมิดนั้นมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนมาหลายยุคหลายสมัย
แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเมื่อก่อน พีระมิดมีพื้นผิวเรียบ
และเป็นสีขาวสว่างไสว แบบที่เราคิดไม่ถึงมาก่อน .. พีระมิดที่จริงแล้วเป็นสีขาว
ภาพจำลองพีระมิดแห่งกิซ่าในสมันก่อน
พีระมิดที่จริงแล้วเป็นสีขาว
พีระมิดที่เราเห็นเป็นหินก้อนใหญ่ๆ สีน้ำตาลนั้น จริงๆ
แล้วเป็นส่วนโครงสร้างภายในของพีระมิด
ส่วนภายนอกของจริงนั้นเป็นหินปูนสีขาวที่เรียกว่า Tura
limestone วางซ้อนบนชั้นหินเอาไว้
ชาวอียิปต์โบราณนั้นให้ความสำคัญกับคนตายมาก
โดยเฉพาะพีระมิดที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บพระศพของฟาร์โรห์ที่เป็นคนสำคัญที่สุด
จะต้องสร้างให้ใหญ่โตและเด่นชัดยิ่งกว่าสิ่งก่อสร้างอื่นๆ ดังนั้น
พีระมิดสีขาวนี้จะถูกขัดจนเงาวับสะท้อนแสงแดดโด่ดเด่นอยู่กลางทะเลทราย ว่ากันว่า
พีระมิดนี้สว่างจ้าเสียจนสามารถเห็นได้จากระยะทางไกลหลายไมล์
แม้แต่ตอนกลางคืนก็ยังสามารถสะท้อนแสงดวงจันทร์จนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในความมืด
ภาพแสดงการวางหินปูนสีขาวซ้อนทับโครงสร้างหินภายใน
หินปูนสีขาวที่ใช้วางบนพื้นผิวหน้าของพีระมิดเป็นหินขนาดประมาณ กว้าง 5
ฟุต
ยาว 5 ฟุต และลึก 6 ฟุต และหนักประมาณ 15 ตัน ด้านของหินที่หันออกนั้นจะถูกตัดให้เรียบเสมอกันเพื่อที่เวลาเอามาวางต่อๆ
กันแล้วจะได้ดูเหมือนเป็นชิ้นเดียวกัน และจะได้สามารถสะท้อนแสงได้ดีที่สุด
นอกจากนั้น บนส่วนยอดสุดของพีระมิดก็จะห่อหุ้มไว้ด้วยทองคำ หรือโลหะสีทอง
ยังมีเศษหินปูนสีขาวหลงเหลือที่ฐานของพีระมิดอยู่บ้าง
สาเหตุที่พีระมิดมีสภาพเหลืออยู่แค่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ก็เพราะยุคหลังจากนั้นพื้นผิวหินปูนส่วนใหญ่ถูกตัดออกไปใช้ทำสิ่งก่อสร้างอื่น เช่น ในยุคของสุลต่าน An-Nasir
Nasir-ad-Din al-Hasan (Bahri Sultan An-Nasir Nasir-ad-Din al-Hasan) ก็มีการนำหินปูนจากพีระมิดแห่งกิซ่าไปใช้ในการสร้างมัสยิดในกรุงไคโร
ส่วนหินปูนที่เหลืออยู่บนพีระมิดก็สึกกร่อนไปตามเวลา อีกทั้งเคยมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นก็ยิ่งทำให้ผิวหน้าของพีระมิดกร่อนอย่างหนักกลายเป็นเศษฝุ่นกองอยู่ที่พื้นรอบๆ
พีระมิด และถูกลมพัดพาไป อย่างไรก็ตาม
ยังมีบางส่วนของหินปูนสีขาวหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้างตรงพื้นส่วนฐานของหมู่พีระมิดแห่งกิซ่า
ที่มา Cracked , ancientegypt , factsfootprint,everyday-readers
No comments:
Post a Comment